พรรคประชาชนส่ง “ดร.ทรงธรรม” ลงสนามชิงนายก อบจ.ระยอง หวังเปลี่ยนโฉมการเมืองท้องถิ่น

พรรคประชาชนประกาศเปิดตัว ดร.ทรงธรรม สุขสว่าง อดีตข้าราชการระดับสูงที่มีประสบการณ์กว่า 30 ปีในด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ลงสมัครตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ระยอง ด้วยวิสัยทัศน์ที่มุ่งเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืน พร้อมนำเสนอนโยบายที่ตอบโจทย์ปัญหาและความต้องการของประชาชนในพื้นที่

ดร.ทรงธรรม สุขสว่าง กล่าวว่า เราได้เข้าไปพบประชาชนรับทราบปัญหาอะไรต่างๆวเรามีความก้าวหน้ามากแล้วเราก็ได้รับรู้ปัญหาของประชาชนมาสร้างนโยบายให้กับจังหวัดระยอง ในพื้นที่มาทั้งหมด 8 อำเภอโดย นโยบายแรกของพรรคคือเรื่องของน้ำประปาในชนบท ซึ่งมีประชากรอยู่เยอะมากเป็นเรื่องที่พักต้องการ ร่วมกันแก้ไขปัญหาเรื่องโรงพยาบาลซึ่งวันนี้โรงพยาบาลประจำจังหวัดหรือโรงพยาบาลใหญ่ๆที่อยู่ตามอำเภอเนี่ยมีคนมาใช้บริการมากเพราะฉะนั้นเราจะไปส่งเสริมให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลมีประสิทธิภาพมากกว่านี้โดยการเพิ่มแค่เพิ่มพยาบาลเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลที่มีศักยภาพก่อนแล้วต่อไปเราสามารถยกระดับของโรงพยาบาลได้เราก็จะดำเนินการให้มีอยู่ทุกอำเภอมีอุปกรณ์การแพทย์หรือว่าแม้แต่เรื่องของทำตามที่บ้านอะไรต่างๆเข้าไปบริกรรมมากกว่านี้อันนี้อยู่ในอำนาจของทางอบจ.ซึ่งสามารถทำได้เพราะว่าวันนี้อยู่ภายใต้ความรู้สึกอบจ.เกือบหมดแล้วครับมีพรรคประชาชนของพวกเราทีมงานส.ส.และผู้ช่วย ลงพื้นที่มาเป็นเวลานานแล้ว ที่เข้าไปรับทราบปัญหาของประชาชนอยู่เสมอก็คิดว่าไม่มีความหนักใจอะไร ต่อไปนี้นโยบายต่างๆ เราจะเสนอแล้วก็นำมาดำเนินการปฏิบัติงานให้เป็นรูปธรรมมากที่สุดด้วย

สำหรับประวัติที่น่าจับตามอง ดร.ทรงธรรม เคยดำรง เคยตำแหน่งหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด และผู้ทรงคุณวุฒิด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า (ระดับ 10) นอกจากนี้ เขายังเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการผลักดันป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่และป่าแก่งกระจานให้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เขาถูกมองว่าเป็นตัวแทนของ “คนทำงานจริง” ที่จะนำความรู้และประสบการณ์มาพัฒนาระบบบริหารท้องถิ่นให้โปร่งใสและมีประสิทธิภาพมากขึ้น นโยบายโดดเด่น การจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในชุมชนการยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน โดยเน้นการศึกษาและสาธารณสุข
ส่วนสนามการเมืองระยองที่ร้อนแรงการเลือกตั้ง อบจ. ระยองครั้งนี้เป็นที่จับตามองอย่างมาก เนื่องจากเป็นการชนกันระหว่างผู้สมัครที่มาพร้อมแนวคิดบริหารแบบใหม่กับ “บ้านใหญ่” ที่ครองอำนาจมายาวนานกว่า 18 ปี การตัดสินใจของประชาชนในครั้งนี้จะเป็นตัวชี้วัดว่า การเมืองท้องถิ่นในจังหวัดระยองจะเดินหน้าสู่การเปลี่ยนแปลงหรือไม่อีกด้วย…

ทีมข่าวการเมือง/รายงาน