“ประวิตร” ชี้ ไทยผ่านวิกฤตการเมืองมาได้ เพราะมีสถาบันพระมหากษัตริย์
“ประวิตร” ชี้ ไทยผ่านวิกฤตการเมืองมาได้ เพราะมีสถาบันพระมหากษัตริย์
เป็นศูนย์กลางยึดเหนี่ยวจิตใจ ขอทุกฝ่ายร่วมพัฒนาการเมืองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น
พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถา หัวข้อการปกครองในระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขในสังคมไทย ซึ่งจัดโดยคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชนวุฒิสภา ที่หอประชุมอาคารราชนครินทร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎราชนครินทร์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งในงานสัมมนาวันนี้มี ประชาชนร่วมรับฟังการเสวนาประมาณ 500 คน
พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ปัจจุบันสังคมไทยมีความสลับซับซ้อนมากขึ้น ที่เผชิญกับความเปลี่ยนแปลงของสังคมโลก และสังคมประเทศ อันส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งเหตุปัจจัยเหล่านี้ล้วนมีอิทธิพลต่อการเมืองการปกครองของประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้ในอดีตที่ผ่านมาบ้านเมืองเคยเกิดวิกฤติต่างๆ แต่ประเทศไทยรอดพ้นได้เสมอมา เพราะเรามีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์กลางยึดเหนียวจิตใจของคนในชาติ ให้มีความรู้รักสามัคคี ทำให้ประเทศเข้มแข็งมีความมั่นคงจนปัจจุบัน ทั้งนี้การส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขสามารถทำได้หลากหลายวิธี ซึ่งทุกท่านในที่นี้สามารถเป็นผู้นำทางความคิด ในการถ่ายทอดความเป็นแบบอย่างของพลเมืองที่มีวิถีชีวิตประชาธิปไตยให้กับคนทุกช่วงวัย โดยเฉพาะการปลูกฝังให้กับเด็กและ เยาวชนเปรียบเหมือนเมล็ดพันธุ์ที่พร้อมจะเติบโตในสังคมได้อย่างแข็งแรง
และวันนี้เป็นโอกาสอันดีที่มีการเสริมสร้างความรู้และความเข้าใจ และการเปลี่ยนแปลงทางความคิดจากทุกภาคส่วน ภายใต้สังคมประชาธิปไตย พร้อมขอให้ผู้ร่วมสัมมนามีความคิดที่จะพัฒนาการเมืองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขให้อย่างกว้างขวาง จากนั้นพล.อ.ประวิตร มอบประกาศนียบัตรแก่ผู้แทนวิทยากร 2 คน ได้แก่ นายจรัญ ภักดีธนากุล อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และนายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง พร้อมมอบประกาศนียบัตรแก่ผู้เข้าร่วมการสัมมนา 15 องค์กรและถ่ายภาพร่วมกับสมาชิกวุฒิสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา นายก อบจ.ฉะเชิงเทรา และหัวหน้าส่วนราชการที่เข้าร่วมการสัมมนา
#TV5HDONLINE #ประวิตร