พล.อ.ประวิตรฯ กำชับตำรวจ 5 ข้อ ปราบเข้ม ค้ามนุษย์

พล.อ.ประวิตรฯ กำชับตำรวจ 5 ข้อ ปราบเข้ม ค้ามนุษย์ – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ อาชญากรรมออนไลน์ – หนี้นอกระบบ – ยาเสพติด จี้ห้ามเรียกรับผลประโยชน์มิชอบเด็ดขาด

เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2565 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) และ คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) กำชับตำรวจ 5 เรื่อง

1. เรื่องยาเสพติด ให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เน้นด้านปราบปรามให้สืบสวนจับกุมเครือข่ายผู้ผลิต ผู้ค้า อย่างจริงจัง ให้ขยายผลยึดทรัพย์เครือข่ายผู้เกี่ยวข้องทุกราย ในด้านป้องกัน มุ่งเน้นลดจำนวนผู้ใช้ ผู้เสพ และผู้ติดยาเสพติดลงให้ได้ โดยใช้ชุมชนหมู่บ้านเป็นศูนย์กลางการแก้ไขปัญหา สร้างความรับรู้กับทุกภาคส่วนว่าผู้เสพคือผู้ป่วย เมื่อสมัครใจเข้ารับการบำบัดแล้วจะไม่เสียประวัติและไม่มีความผิด และใช้มาตรการเชิงรุกด้านการค้นหาผู้เสพยาเสพติดนำเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา ให้เดินหน้าโครงการชุมชนยั่งยืนเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติ รวมทั้งให้มีการประเมินผล อย่างมีประสิทธิภาพ

2. เรื่องแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย ให้กวดขันจับกุมขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานฝ่ายทหาร ฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายปกครอง เพื่อสกัดกั้นการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง โดยเน้นไปที่ผู้ปฏิบัติงานระดับพื้นที่ตามแนวชายแดน และชุมชนตามแนวชายแดน หากมีการจับกุมให้ขยายผลให้ถึงขบวนการอย่างเด็ดขาด

“กรณีเข้าข่ายการค้ามนุษย์ ให้ดำเนินการตามแผนปฏิบัติการว่าด้วยกลไกการส่งต่อระดับชาติ การบริหารคดี และการช่วยเหลือคุ้มครองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์”

3. เรื่องอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ให้เร่งรัดสืบสวนจับกุม ปราบปรามขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หรือเครือข่ายฉ้อโกงประชาชนในความผิดต่าง ๆ รวมทั้งสืบสวนขยายผลไปยังกลุ่มนายทุน คนเปิดบัญชีม้า และดำเนินคดีกับผู้ร่วมกระทำผิดทุกราย โดยนำมาตรการตามกฎหมายฟอกเงินมาบังคับใช้ติดตามทรัพย์สินมาคืนให้กับผู้เสียหายเพื่อบรรเทาความเสียหายที่เกิดขึ้น

“ให้กวดขันจับกุมผู้กระทำผิดที่ใช้ช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ เช่น ค้าอาวุธปืน การพนันออนไลน์ ยาเสพติด และอื่น ๆ โดยให้ขยายผลไปยังกลุ่มทุนทุกราย และเน้นมาตรการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันต้านภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่อแจ้งเตือนประชาชนทุกรูปแบบให้ทราบถึงกลโกง วิธีการของคนร้าย เพื่อให้ประชาชนไม่ตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงประเภทต่าง ๆ ให้ทั่วถึงประชาชนทุกกลุ่ม”

4. แก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ให้สืบสวนจับกุม กลุ่มผู้ลักลอบปล่อยเงินกู้ และเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตรา รวมถึงนายทุนที่อยู่เบื้องหลังอย่างจริงจังเด็ดขาด ให้ยึดอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด เช่นเงินสด ยานพาหนะ ของกลุ่ม คนร้ายเพื่อเป็นการตัดวงจรการกระทำผิดซ้ำ ให้จัดทำสารบบข้อมูลเบาะแสเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ เพื่อประโยชน์ในการสืบสวนจับกุม ผู้กระทำผิด

และ 5. กำชับข้าราชการตำรวจทุกนาย ห้ามมิให้เรียกรับ ยอมรับ ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดยมิชอบด้วยกฎหมาย หรือกระทำการใดที่เป็นการประพฤติตนไม่เหมาะสม หรือส่อไปในทางทุจริต ประพฤติมิชอบ โดยให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นควบคุม ตรวจสอบ และกำกับดูแล หากพบการฝ่าฝืนให้พิจารณาทางปกครอง วินัย และอาญาอย่างจริงจังทุกราย

ตะวันเสรี