พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ทำงานจากที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด

เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2565 พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ทำงานจากที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด มี พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ร่วมประชุม ประชุมคณะกรรมการบริหารระบบการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติผ่านระบบวิดีโอคอนฟีเรนซ์
.
ทั้งนี้ที่ประชุมได้เห็นชอบ (ร่าง) แผนยุทธศาสตร์การบริหารระบบการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ พ.ศ. 2566 – 2570 ภายใต้วิสัยทัศน์ “เป็นผู้นำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้านการบริหารการเตือนภัย ด้วยดิจิทัลแบบบูรณาการที่มีมาตรฐานสากล” ประกอบด้วย 4 ยุทธศาสตร์หลัก และสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
.
รวมทั้งเห็นชอบการดำเนินการแจ้งเตือนภัยโดยใช้ระบบ Cell Broadcast ด้วยการแจ้งเตือนภัยไปยังโทรศัพท์เคลื่อนที่ และสามารถระบุพื้นที่ที่จะทำการแจ้งเตือน ไปยังอุปกรณ์สื่อสารจำนวนมากในการส่งเพียงครั้งเดียว

ทั้งนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการแจ้งเตือนภัยให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งการดำเนินการจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน อาทิ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กรมอุตุนิยมวิทยา กรมชลประทานสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ เป็นต้น
.
ขณะเดียวกันที่ประชุมยังได้รับทราบแนวทางการถ่ายโอนศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ จาก กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) มาสังกัด กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 2559 ทั้งนี้ ศูนย์เตือนภัยจะปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ ทั้งในภาวะปกติ ภาวะที่มีความเสี่ยง และภาวะที่มีการเกิดภัยพิบัติ

พร้อมทั้งได้รับทราบ ความคืบหน้าระบบการเฝ้าระวังและช่องทางการแจ้งเตือน โดยมีการแจ้งเตือนภัยล่วงหน้าเพื่อให้มีการรับมือและอพยพ ผ่านอุปกรณ์การเตือนภัยประกอบด้วย หอเตือนภัยจำนวน 338 หอ เครื่องรับสัญญาณดาวเทียม จำนวน 163 แห่ง
.
ติดตั้ง ณ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยเขตทั้ง 18 เขต 70 จังหวัดและสถานีวิทยุกระจายเสียงประจำจังหวัด จำนวน 285 แห่ง รับข้อมูลผ่านสัญญาณดาวเทียมและกระจายการแจ้งเตือนด้วยระบบคลื่นวิทยุไปยังหอเตือนภัยขนาดเล็กจำนวน 674 แห่ง และส่งถึงหอกระจายข่าวภายในชุมชน และหมู่บ้าน ต่อไป

พล.ท.พัชร์ชศักดิ์ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร ยังได้กำชับ กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย รวมทั้งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามแผนงาน จะต้องบูรณาการทำงานร่วมกัน อย่างมีเอกภาพ เพื่อยกระดับการแจ้งเตือนสู่ระดับที่สูงขึ้น สามารถเพิ่มประสิทธิภาพและปฏิบัติงานได้จริง
.
เพื่อลดความเสี่ยง ความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นได้อย่างมหาศาล จากภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว อาทิ น้ำท่วมฉับพลัน ไฟป่า แผ่นดินไหวหรือ สึนามิ เป็นต้น
.
#พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ #รองนายกรัฐมนตรี #รักษาการนายกรักษาการนายกรัฐมนตรี #มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ5จังหวัด #ประชุมคณะกรรมการบริหารระบบการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ