ผมขอขอบคุณสื่อมวลชนและพี่น้องประชาชนที่ให้ความสนใจจดหมายเปิดใจ ที่ผมสื่อสารผ่านแฟนเพจ “พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ”
ผมขอขอบคุณสื่อมวลชนและพี่น้องประชาชนที่ให้ความสนใจจดหมายเปิดใจ ที่ผมสื่อสารผ่านแฟนเพจ “พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ” เมื่อ 13 มกราคม ที่ผ่านมา ได้ทราบว่า วันแรกมียอดสืบค้นหาทางกูเกิลถึง 8 แสนครั้ง และเพิ่มขึ้นจนทะลุ 1.5 ล้านครั้ง ในวันที่สอง
.
ถือเป็นปรากฏการณ์ครั้งแรกสำหรับผมและพรรคพลังประชารัฐ ที่ได้รับเสียงตอบรับจากสังคม ตรงตามเจตนารมณ์ที่ผมต้องการจะสื่อสารสองทางผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนแสดงความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ได้เต็มที่
.
ผมอาจจะเป็นมือใหม่บนโลกโซเชียลมีเดีย แต่ไม่ใช่มือใหม่ทางการเมือง ตลอด 8 ปี การเมืองมีคุณค่ามากสำหรับผม ซึ่งจะทยอยเล่าให้ฟังในโอกาสต่อไป ว่าผมได้เรียนรู้อะไรบ้าง ขอได้โปรดติดตาม
.
แต่สำหรับวันนี้ ผมอยากจะบอกว่า ผมได้เรียนรู้ว่านักการเมืองไม่จำเป็นต้องพูดเก่ง แต่จะต้องคิดเก่ง และที่สำคัญคือต้องหาคนเก่งมาร่วมงานด้วย เพราะคนเรานั้นไม่มีใครเก่งไปทุกเรื่อง
.
นอกจากนั้น นักการเมืองต้องสามารถประสานกับทุกฝ่าย ประนีประนอมกับทุกพรรค เพื่อลดความขัดแย้ง โดยยึดถือผลประโยชน์ของส่วนรวมเป็นหัวใจสำคัญ จึงจะสามารถผลักดันประเทศชาติให้เดินหน้าไปได้
.
ผมพิสูจน์ตัวเองมาแล้ว ทั้งในฐานะ ผบ.ทบ. และนักการเมือง โดยเฉพาะในรัฐบาลชุดนี้ ในฐานะหัวหน้าพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ได้ประคับประคองมาจนจะครบวาระ ดังเป็นที่ประจักษ์มาแล้ว
.
เป้าหมายที่พรรคพลังประชารัฐให้ความสำคัญในขณะนี้ คือจะต้องนำพาประเทศฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจไปให้ได้ เพราะทั้ง IMF และธนาคารโลก ต่างก็เตือนว่าเศรษฐกิจโลกในปีนี้ จะยังชะลอตัว ส่งผลกระทบต่อทุกประเทศ
.
ผมจึงกำชับพรรคให้จัดทำนโยบายที่ยึดโยงกับประชาชน เพื่อพัฒนาประเทศจากล่างขึ้นบน ไม่ใช่จากบนลงล่าง โดยสรรหาคนเก่งที่มีความรู้
ความเชี่ยวชาญ ในด้านต่าง ๆ มาช่วยกันระดมความคิด เพื่อเสนอต่อสังคม หากสังคมตอบรับก็จะนำเข้าสู่ที่ประชุมพรรค เพื่อบรรจุเป็นนโยบาย
.
นโยบายแรกที่ประกาศไปแล้ว คือการเติมเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเป็นเดือนละ 700 บาท เพื่อเติมพลังให้พี่น้องประชาชนได้ใช้ดำรงชีวิต ซึ่ง ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ อธิบายรายละเอียดกับสื่อมวลชนหลายสำนักไปแล้วอย่างชัดเจน
.
แล้วยังมีอีก 3 เรื่องเร่งด่วนที่ผมให้ความสำคัญก็คือ
1.สร้างโครงสร้างพื้นฐานชุมชนให้เข้มแข็ง
2.ปรับโครงสร้างพลังงานให้เป็นธรรม
และ 3.ปฏิรูประบบสุขภาพปฐมภูมิชุมชน ซึ่งจะเป็นการ “เพิ่มพลังให้ประชาชน เพื่อสร้างพลังแก่รัฐ”
.
จากนี้ พรรคพลังประชารัฐจะเปิดเวทีเสวนาหาข้อสรุปแนวนโยบายต่าง ๆ พร้อมทั้งไลฟ์สดทางแฟนเพจ “พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ” อย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างความมั่นใจแก่พี่น้องประชาชนว่า “ทุกปัญหามีทางออก ทุกประเด็นมีคำอธิบาย”
.
ขอให้สื่อมวลชนและพี่น้องประชาชนทุกท่านรอติดตาม และร่วมแสดงความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ ผมและคณะทำงานทุกคนยินดีรับฟังครับ
.
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
วันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2566