การซื้อสิทธิขายเสียง

การซื้อสิทธิขายเสียง
การซื้อสิทธิ ขายเสียง คือการซื้อขายศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

สภาวะการเมืองไทยในปัจจุบันแสดงให้เห็นถึงความบกพร่องของสังคมเนื่องมาจากการแข่งขันแก่งแย่งชิงดีกันโดยไม่หวาดหวั่น สังคมไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน ล้วนเกิดจากผู้ที่ไม่ประสงค์ดีพยายามใช้วิธีซื้อเสียงของผู้อื่น เพื่อเป็นสะพานทอดให้ตัวเองได้มีอำนาจและตำแหน่งทางการเมือง จากนั้นก็กอบโกยและแสวงหาผลประโยชน์เข้าตัวเองโดยไม่เคยสนใจว่าประชาชนจะลำบากหรือจะเกิดผลกระทบในทางที่ไม่ดีอย่างไรต่อสังคม

ซื้อสิทธิ ขายเสียงการซื้อสิทธิ์ การซื้อสิทธิขายเสียงได้ถูกทำให้กลายเป็นเรื่องของ คนดี-คนเลว คนรู้-คนไม่รู้ เป็นปัญหาระดับบุคคลที่แก้ไขได้โดยการรณรงค์/ประชาสัมพันธ์ แทนที่จะเป็นเรื่องที่มีรากเหง้ามาจากสภาพเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ขายเสียงเป็นสาเหตุสำคัญประการหนึ่ง ที่ทำให้ประชาธิปไตยไม่พัฒนา เงินทำให้ประชาชนระงับการใช้วิจารณญาณอิสระของตนเอง ที่จะเลือกตำแหน่งสาธารณะต่างๆ การใช้วิจารณญาณอิสระเป็นเงื่อนไขสำคัญในระบอบประชาธิปไตย หากทว่าการพิจารณาว่าจะขายเสียงแก่เบอร์ไหนถึงจะได้ “กำไร” สูงสุดต้องนับเป็นการใช้วิจารณญาณอิสระอย่างหนึ่งเหมือนกันฉะนั้นโดยอุดมคติแล้ว การใช้วิจารณญาณอิสระก็ควรใช้เพื่อมุ่งต่อประโยชน์ “ส่วนรวม” ไม่ใช่ประโยชน์ส่วนตัว ค่านิยมของประชาชนจำนวนมากที่เคยชินกับการรับเงินซื้อเสียงเพื่อไปเลือกตั้งกำลังลามระบาดไปทั่วประเทศอย่างน่ากลัว ดังคำกล่าวอย่างไม่รับผิดชอบว่า “เงินไม่มา-กาไม่เป็น” และน่าเป็นห่วงอย่างยิ่งที่ค่านิยมในการซื้อ-ขายเสียงอัตราระดับท้องถิ่น กำลังแพร่หลายไปในการเลือกตั้งระดับชาติ การซื้อสิทธิ์ขายเสียงเป็นศัตรูบ่อนทำลายระบอบประชาธิปไตยจนวิกฤติศรัทธาจริงๆ ถ้าหากยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยเป็นระบอบการปกครองของประเทศชาติ เป็นหน้าที่ของรัฐบาลและประชาชนทุกคนที่จะต้องรีบเร่งกำจัดการซื้อเสียงในการเลือกตั้งทุกระดับ ตั้งแต่ระดับท้องถิ่นไปจนถึงระดับชาติ

สิทธิ คือ อำนาจอันชอบธรรม ซึ่งบุคคลทุกคนพึงมีพึงได้ โดยไม่ไปเบียดเบียนคนอื่น
สิทธิที่มีอยู่นี้จะปรากฏในหลาย ๆ ด้าน เช่น สิทธิในบ้านเรือนที่อยู่อาศัย ตลอดจนทรัพย์สินต่าง ๆ
ของตนเอง ที่เรียกว่า สิทธิตามกฎหมายแพ่ง หรือในการเลือกตั้งบุคคลทุกคนก็มีสิทธิในการ
เลือกตั้ง ตามที่กฎหมายกำหนดเอาไว้ นอกจากนี้ยังมีสิทธิในร่างกาย สิทธิในการประกอบกิจการ
ต่าง ๆ ตามที่ตนเองต้องการและสิทธิที่สำคัญที่สุดของบุคคลก็คือ สิทธิตามกฎหมาย สิทธิสามารถจำแนกได้ดังนี้ สิทธิพลเมือง ได้แก่ สิทธิส่วนบุคคล ของบุคคลใดบุคคลหนึ่งแห่งชีวิตและร่างกาย การไม่ถูกทำร้ายร่างกายและจิตใจ การมีเสรีภาพในการเชื่อถือและปฏิบัติตามความเชื่อถือของตนตามลัทธิ หรือนิกายต่างๆ รวมถึงสิทธิที่จะนับถือหรือไม่นับถือศาสนา และสิทธิอันเสมอภาคระหว่างความแตกต่างทางเพศ นอกจากนี้ยังหมายถึง สิทธิการได้รับสัญชาติ สิทธิในความเสมอภาคต่อหน้ากฎหมาย สิทธิที่จะได้รับการปกป้องจากการจับกุมหรือคุมขังโดยมิชอบ สิทธิที่จะได้รับการพิจารณาในศาลอย่างยุติธรรม
สิทธิทางการเมือง ได้แก่ สิทธิในการมีส่วนร่วมทางการเมืองในฐานะเจ้าของอำนาจอธิปไตย หรือเรียกว่า สิทธิในการเลือกหรือกำหนดวิถีชีวิตของตนเองทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งจะใช้สิทธิดังกล่าวผ่าน ระบบตัวแทนในการเลือกตั้ง หรือ การมีส่วนร่วมทางตรง ก็ได้ ซึ่งสิทธิทางการเมืองในระบบตัวแทน จะมีความหมายถึง สิทธิในการเลือกผู้แทนเข้าไปบริหารประเทศอย่างเสรีและปราศจากการแทรกแซงใดๆ สิทธิในการสมัครผู้แทน สิทธิในการจัดตั้งกลุ่มทางการเมือง และสิทธิในการเข้าร่วมพรรคการเมือง สิทธิทางการเมืองยังรวมถึงสิทธิในการแสดงความคิดเห็นและการแสดงออกทางการเมือง สิทธิในการวิพากษ์วิจารณ์ทางการเมืองตามวิถีประชาธิปไตยที่ยอมรับความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่าง สิทธิในการชุมนุมทางการเมืองอย่างสันติ สิทธิในการเสนอ ร้องเรียน หรือตั้งข้อเรียกร้องทางการเมือง และสิทธิในมีส่วนร่วมกับรัฐในการดำเนินกิจการที่เป็นประโยชน์สาธารณะ
สิทธิทางเศรษฐกิจ ได้แก่ สิทธิในการมีงานทำ สิทธิในการประกอบอาชีพตามต้องการ สิทธิในการเลือกงานอย่างอิสระและได้รับค่าจ้างอย่างเป็นธรรม สิทธิในการเป็นเจ้าของทรัพย์สิน สิทธิที่จะได้รับหลักประกันทางเศรษฐกิจที่พอเพียงจากรัฐ เช่น การได้รับอาหารที่เพียงพอแก่การยังชีพ และความเสมอภาคในทางเศรษฐกิจ เป็นต้น


สิทธิทางสังคม ได้แก่ สิทธิในการอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข มั่นคง และเท่าเทียมกันทุกคน จึงหมายความถึงสิทธิในการได้รับการศึกษา สิทธิการได้รับหลักประกันด้านสุขภาพ สิทธิในการได้รับการดูแลจากรัฐเพื่อความมั่นคงในชีวิต และสิทธิ เสรีภาพในการเลือกคู่ครองและสร้างครอบครัว
สิทธิทางวัฒนธรรม ได้แก่ สิทธิ เสรีภาพในการใช้ภาษา หรือ สื่อความหมายในภาษาท้องถิ่น การมีอัตลักษณ์ของกลุ่ม ชุมชน หรือท้องถิ่น การแต่งกายตามวัฒนธรรม การปฏิบัติตามวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นของตน การพักผ่อนหย่อนใจทางศิลปวัฒนธรรมของตน สิทธิมนุษยชน ถือเป็นมาตรฐานขั้นต่ำที่ต้องปฏิบัติต่อกันระหว่างมนุษย์ ที่อาจมีกฎหมายหรือไม่มีกฎหมายบัญญัติไว้ก็ได้ เช่น สิทธิในชีวิตและร่างกาย ที่แม้หากไม่มีกฎหมายบัญญัติไว้ว่าเป็นความผิด มนุษย์ย่อมรู้ได้ว่าไม่ควรทำร้ายร่างกายหรือฆ่ากัน แต่สิทธิอื่นๆ บางประการ เช่น สิทธิในการได้รับหลักประกันทางเศรษฐกิจในการได้รับอาหารที่พอเพียงนั้น หากไม่มีกฎหมายบัญญัติไว้ย่อมไม่รู้ว่าการขาดแคลนอาหารของผู้คนในประเทศเป็นการกระทำผิดของรัฐบาลซึ่งมีหน้าที่ต้องดูแล รับผิดชอบและจัดการให้คนในชาติได้รับอาหารเพียงพอแก่การมีชีวิตอยู่รอด และถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านสิทธิทางเศรษฐกิจ

มนุษย์ คือ ผู้ที่มีจิตใจประเสริฐสูงค่ากว่าสัตว์เดรัชฉานถึงแม้ว่ามนุษย์บางคนจะมีกิเลสครอบงำแต่อย่างน้อยก็ยังรู้จักผิดชอบชั่วดี รู้ตัวว่ากำลังกระทำอะไร ประเทศไทยของเรามีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยซึ่งประชาชนชาวไทยทุกคนมีสิทธิที่จะออกเสียงได้อย่างเสรี เพราะฉะนั้นหน้าที่ที่สำคัญที่สุดของประชาชนคือการออกเสียงใช้สิทธิของตนเองที่มีอยู่อย่างเต็มที่และเป็นไปอย่างถูกต้องเพื่อรักษาเสถียรภาพทางด้านสังคมให้คงอยู่
ศักดิ์ศรี คือ การทำสิ่งที่ดีและถูกต้อง ใครจะดูถูกหรือหยามเหยียดอะไรก็ไม่ถือสา เพราะได้ทำในสิ่งที่ถูกที่ควรแล้ว คนเรามักพูดกันเสมอว่าศักดิ์ศรีเงินซื้อไม่ได้ แสดงให้เห็นว่ามันมีคุณค่ามากจึงไม่สามารถที่จะตีออกมาเป็นมูลค่าได้ มนุษย์เรามีศักดิ์ศรีอยู่ในตัวแต่ขึ้นอยู่กับตัวเองว่าจะรักษาศักดิ์ศรีให้คงอยู่กับตัวเราหรือจะขายศักดิ์ศรีให้แก่คนอื่นเพราะเห็นแก่มูลค่าทรัพย์สินที่เขาจะนำมาให้ ศักดิ์ศรี คือ ความเป็นตัวของเรา ไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่หากยอมให้ใครเอาเงินมาฟาดได้วันนั้นแหละจำทำให้เราหมดศักดิ์ศรีแล้ว ไม่ให้เกียรติกับตัวเอง ตีค่าศักดิ์ศรีของตัวเองแค่เงินตราเพราะทำให้วัตถุมีคุณค่าเหนือจิตใจและศักดิ์ศรีของตัวเอง

ในการเลือกตั้งสภาผู้แทนแต่ละครั้งมักจะมีการซื้อสิทธิขายเสียงในการเลือกตั้งเพราะตนเองต้องการที่จะเป็นใหญ่ แต่ด้วยศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ ประชาชนทุกคนก็มีสิทธิอย่างเต็มที่ที่จะปฏิเสธบุคคลข้างต้น หรือเรามีสิทธิ์อย่างเต็มที่ ที่จะสร้างสรรค์สังคมที่เราดำรงชีวิตอยู่ให้ดำเนินไปในหนทางที่ถูกต้อง เพราะศักดิ์ที่เราทุกคนมีอยู่คือสิ่งที่คอยกำหนดอนาคตการเมืองในประเทศของเรา เราทุกคนมีศักดิ์ศรี เราจึงไม่ควรที่จะปล่อยให้บุคคลบางกลุ่มที่ประสงค์ร้ายต่อเราและบ้านเมืองของเรามันครอบครองประเทศ จนศักดิ์ศรีของเราสูญหายไป กลายเป็นคนไร้สิทธิทางการเมือง เหมือนคนที่ถูกกักขังไม่สามารถแม้แต่การเอ่ยปากเพื่อแสดงความคิดเห็นในด้านดีๆ ต่อสังคม เพราะสิทธิทางการบริหารประเทศที่มีอยู่ได้ไปตกอยู่ในเนื้อมือของผู้ที่ไม่หวังดีต่อสังคมไทยเราเพียงผู้เดียวและอะไรคือสาเหตุ คำตอบคงไม่มีใครบอกเราได้เท่ากับตัวของเราเองทุกคน ทิศทางของประเทศควรจะเดินไปในทิศทางใด เพื่อให้ธงไตรรงค์ได้โบกสะบัดด้วยความภาคภูมิในความเป็นชาติไทยตลอดไป อยู่ที่ตัวเราทุกคนที่จะต้องมานั่งตั้งคำถามและหาคำตอบให้กับตัวเองว่า การเลือกตั้งในไม่กี่วันข้างหน้าเราหาทางออกให้ประเทศไทยอย่างไร ซื้อสิทธิ ขายเสียงอย่างที่เคยทำกันมาอย่างนั้นดีหรือไม่คำตอบในใจของข้าพเจ้าคือไม่ เพราะการซื้อสิทธิขายเสียงเป็นความต้องการของผู้ที่อยากเป็นใหญ่เป็นโตและอยากจะกอบโกยผลประโยชน์จากส่วนรวม

ประชาชนอย่างเรามีความคิด มีวิจารณญาณผ่านร้อนผ่านหนาวของเหตุการบ้านเมืองมานักต่อนักแล้วอย่าให้ต้องมีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ไม่ว่าจะเป็นประชาชนหรือพรรคการเมืองไม่ควรปล่อยให้เงินตราเข้ามาซึมซับเป็นปัจจัยที่หกของชีวิตชนิดที่ขาดไม่ได้ เพราะประชาชนเปรียบเสมือนกระดาษขาวที่จะซับสีที่จะนำมาให้ หากมีการนำสีแห่งเงินตราเข้ามาให้ดูดซับ ารซื้อสิทธิขายเสียงก็จะถูกดูดซับเข้าไว้ในใจ และหากการเลือกตั้งทุกครั้งพรรคการเมือง นักการเมืองป้อนเงินให้ประชาชนดูดซับ รับกับประชาชนก็พร้อมซึมซับอย่างไม่หลีกเลี่ยงด้วยการซื้อสิทธิขายเสียง ประชาชน พรรคการเมือง นักการเมืองก็จะซึมซับวิธีคิดแบบนี้ไปตลอดตราบเท่าที่มีการเลือกตั้งทุกๆครั้งก็จะมีการซื้อขายเสียงจนในบางครั้งการซื้อขายเสียงแทบจะกลายเป็นวัฒนธรรมของสังคมการเมืองไทยในปัจจุบันไปแล้ว และเมื่อถึงวันนั้นมันอาจกลายเป็นเนื้องอกร้ายที่ยังคง รักษาไม่หายขาดดั่งเช่นปัจจุบันแล้วอนาคตข้างหน้าเราจะบอกลูกหลานของเราได้อย่างไรว่า ศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์มันหมายถึงอะไร ในเมื่อใครๆก็รักคำนี้มาก แต่มากกว่ามากคือการทำลายมันลงทุกวันๆเพราะความเห็นคุณค่าของวัตถุภายนอกมากเกินไป อย่าลืมว่าการซื้อสิทธิขายเสียงก็มิได้แตกต่างอะไรกับการซื้อขายศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และในเมื่อมนุษย์ทุกคนขายศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ให้เขาไปหมดแล้ว จะมีใครกล้ายืนอยู่บนผืนแผ่นดินนี้ด้วยกับการมีชีวิตอย่างเต็มภาคภูมิ

การคงอยู่ของสิทธิและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ คือการคงอยู่ของตัวเราเอง ขณะเดียวกันที่เราได้ซื้อขายสิทธิอันชอบธรรมของเราเองให้กับผู้อื่น ก็เท่ากับว่าเรากำลังซื้อขายศักดิ์ศรีของตัวเอง หรือกำลังมอบจิตวิญญาณของสัตว์ที่รู้คิดให้กับผู้อื่นเป็นผู้กำหนดชะตาชีวิตของเรา โดยตัวเราเองเป็นผู้หยิบยื่นให้อย่างเย็นชาไม่แยแสต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อตัวเองและสังคม ทั้งทรัพยากรรอบตัวที่เราทุกคนต่างก็มีความจำเป็นต้องอุปโภคบริโภคอยู่ทุกวี่วัน การปล่อยให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น ก็เท่ากับว่า สิ่งที่ไม่ยั่งยืนคือสิ่งที่เราต้องการมากกว่าความเป็นมนุษย์ที่มีศักดิ์ศรีและสิทธิในสังคม

ปัจจุบันปัญหาคอรัปชั่นเป็นปัญหาที่หยั่งรากฝังลึกลงไปในสังคมของประเทศไทย เกิดขึ้นตั้งแต่ในระดับกระทรวงจนถึงองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ในปัจจุบันว่ากันว่าองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นองค์กรที่มีการโกงกินคอรัปชั่นมากที่สุด จึงทำให้เกิดปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียงกันไปทั่ว ข้าพเจ้าคิดว่าเหตุที่องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นเกิดปัญหาเช่นนี้เพราะ เป็นองค์กรที่แยกย่อยมาจากส่วนกลางและห่างไกลจากสายตาของผู้ตรวจสอบทั้งหลายจึงทำให้คนที่มีความสามารถ ฉลาด แต่ไร้ซึ่งคุณธรรมเห็นถึงช่องในการทำมาหากินจากการคอรัปชั่น สาเหตุอีกประการหนึ่งเกิดจากการเลียนแบบเพราะเนื่องจากเมื่อเห็นคนคอรัปชั่นแล้วแต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ถูกลงโทษตามกฏหมายที่ควรจะได้รับโทษกลับสร้างความร่ำรวยมั่งคั่งและแผ่กระจายอำนาจ ทำให้ความคิดแบบนี้แพ่กระจายไปสู่คนอื่นๆในสังคม แต่ข้าพเจ้าคิดว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดการซื้อสิทธิขายเสียง ขายศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ก็เพราะขาดความรู้ ขาดการศึกษา ทำให้โดนชักจูงง่ายๆจากผู้ที่ฉลาดกว่า ควรมีการให้การศึกษาให้กับประชาชนให้ทั่วถึงโดยเฉพาะกฏหมายพื้นฐานในชีวิตประจำวัน มีประชาชนไม่กี่เปอร์เซ็นต์ที่เข้าใจกฏหมายและในประเทศไทยคนส่วนใหญ่ก็เป็นประเภทที่ไม่ค่อยจะรู้กฏหมายจึงเป็นช่องโหว่ทำให้คนโกงเหล่านี้เข้ามามีบทบาทอำนาจทางการเมืองด้วยการซื้อสิทธิ ขายเสียง ประชาชนอีกกลุ่มที่จะโดนล่อลองให้ขายศักดิ์ศรีก็คือ คนจนหรือชนชั้นล่าง เพราะเขาเหล่านี้ขาดเงินขาด

เครดิต โดย นางสาวอังสนา มีแก้วเจริญ