ชาวบ้านมาบตาพุด-ห้วยโป่ง จ.ระยอง โวยโรงร่อนทราย ปล่อยน้ำเสียสีขาวขุ่น ลงลำรางสาธารณะ วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ หวั่นทำน้ำเน่าเหม็นและตื้นเขินตลอดคลอง
ชาวบ้านมาบตาพุด-ห้วยโป่ง จ.ระยอง โวยโรงร่อนทราย ปล่อยน้ำเสียสีขาวขุ่น ลงลำรางสาธารณะ วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ หวั่นทำน้ำเน่าเหม็นและตื้นเขินตลอดคลอง
เมื่อวันที่ 5 พ.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีชาวบ้านซอยพัฒนา-ชอยวัดคีรี ต.ห้วยโป่ง อ.เมือง จ.ระยอง ร้องเรียนว่าพบมีน้ำชะล้างจากการร่อนทรายของโรงทรายซึ่งเป็นของนายทุนในพื้นที่ ไหลเอ่อออกมาจากโรงทรายลงลำรางสาธารณะริมถนนสายแยกสุขุมวิท-ราฎร์บำรุง ต.ห้วยโป่ง อ.เมืองระยอง ตรวจสอบพบน้ำจากการชะล้างทรายดังกล่าวไหลออกมาป่าข้างทาง มีลักษณะสีขาวขุ่น มีกลิ่นเหม็นโดยคาดว่ามีการต่อท่อใต้ดินเพื่อให้มาโผล่ริมถนน หลังมีลักษณะน้ำผุดขึ้นมาจากใต้ดิน ก่อนไหลลงลำราง และน้ำบางส่วนไหลเข้าที่ชาวบ้านที่มีการปลูกมันสำปะหลังด้วย ก่อนที่น้ำเสียดังกล่าวจะไหลลงมายังบริเวณสะพานคลองหลอด 8 ต.ห้วยโป่ง โดยน้ำมีลักษณะสีขาวขุ่นข้นไหลปนมากับทรายเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ชาวบ้านในพื้นที่ยืนยันว่า น้ำลักษณะขาวขุ่นดังกล่าว เกิดจากการชะล้างของโรงทรายของนายทุนในพื้นที่ ซึ่งเมื่อไหลลงลำรางจะทำให้ตื้นเขิน มีกลิ่นเหม็น ปลาตาย และน้ำไม่สามารถนำไปใช้สำหรับพืชผลทางการเกษตรได้ โดยจะพบเห็นบ่อยครั้ง สาเหตุคาดว่าเกิดจากการที่นายทุนลักลอบปล่อยทิ้ง หรืออาจเกิดจากบ่อพักน้ำชะล้างล้นแล้วไหลออกมาภายนอก อย่างไรก็ตามชาวบ้านอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาตรวจสอบอย่างเร่งด่วนด้วย
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า มีชาวบ้านชุมชนบ้านบน ต.มาบตาพุด อ.เมืองระยอง ได้ร้องเรียนว่ามีน้ำในลำคลองตาเที่ยง พบมีลักษณะสีขุ่นเข้ม มีกลิ่นเหม็น และมีทรายปนมาด้วย ซึ่งคลองดังกล่าวเชื่อมต่อกับคลองหลอด 8 อยู่ห่างกันประมาณ 10 กม.ชาวบ้านในพื้นที่ไม่กล้านำน้ำมาใช้รดพืชผลทางการเกษตร
นางเกษร อ่ำมะรี อายุ 59 ปี รองประธานชุมชนบ้านบน กล่าวว่า ไม่ทราบแน่ชัดว่าน้ำเสียดังกล่าวมาแหล่งใด แต่มีลักษณะสีขาวขุ่น มีกลิ่นเหม็นและมีทรายปนมาด้วย ซึ่งอาจเกิดจากการชะล้างร่อนทรายของโรงทรายที่อยู่เหนือคลองขึ้นไปในพื้นที่ ต.ห้วยโป่ง ซึ่งมีอยู่หลายแห่ง ทั้งนี้อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาตรวจสอบโดยเร็วว่าสาเหตุเกิดจากสิ่งใด น้ำจึงมีสีขาวขุ่นข้น ทั้งที่ไม่มีฝนตก ซึ่งชาวบ้านไม่กล้านำน้ำมารดพืชผลทางการเกษตรเกรงว่าจะได้รับผลกระทบต่อดำรงชีวิต.