อธิบดีกรมป่าไม้สั่งชุดพยัคฆ์ไพรเดินหน้าตรวจสอบสวนทุเรียนในเขตป่าสงวนแห่งชาติ

“อธิบดีกรมป่าไม้สั่งชุดพยัคฆ์ไพรเดินหน้าตรวจสอบสวนทุเรียนในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี และจังหวัดตราดต่อเนื่อง ล่าสุดวันนี้เจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าดำเนินการเป้าหมาย 2 จุด ในอำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด หลังตรวจพบมีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติปลูกทุเรียนและมังคุด นอกจากนี้พบร่องรอยมีการเจาะต้นไม้ใหญ่ทำให้ยืนต้นตาย และบางส่วนถูกแปรรูปนำออกจากพื้นที่”

นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ สั่งการให้หน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) และสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 9 (ชลบุรี) บูรณาการกำลังกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) เดินหน้าตรวจสอบพื้นที่เป้าหมายตามยุทธการ “พิทักษ์ผืนป่าตะวันออก” เป็นการต่อเนื่อง โดยล่าสุดวันนี้ นายชาญชัย กิจศักดาภาพ ผู้อำนวยการส่วนปฏิบัติการพิเศษ หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) มอบหมายให้นายภูธเรศ กาบคำ นักวิชาการป่าไม้ปฏิบัติการ นำกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 1 (ภาคกลาง) เจ้าหน้าที่ป่าไม้สังกัดสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 9 (ชลบุรี) และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้าตรวจสอบพื้นที่เป้าหมาย 2 จุด ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาสมิง (ป่าคลองใหญ่และป่าเขาไฟไหม้) บริเวณเขากำแพง หมู่ที่ 2 ตำบลหนองบอน อำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด

เป้าหมายแรก เจ้าหน้าที่ตรวจพบมีการเข้ามาปรับพื้นที่ทำสวนทุเรียนหลังปี 2564 เนื่องจากตรวจสอบข้อมูลภาพถ่ายทางอากาศย้อนหลัง พบว่าก่อนปี 2564 พื้นที่ยังคงมีสภาพป่า จากการจับพิกัดแปลงที่ดินคำนวณเนื้อที่ได้ 13-1-68 ไร่ ขณะเดียวกันในพื้นที่พบมีการตัดไม้ขนาดใหญ่ โดยพบร่องรอยตอไม้และไม้ท่อนกระจายเต็มพื้นที่ ตรวจสอบเป็นไม้ชุมแพรก ไม้ยวน ซึ่งเป็นไม้หวงห้ามตามพระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม พ.ศ. 2530 นอกจากนี้ในพื้นที่พบต้นไม้ขนาดใหญ่ยืนต้นตาย เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียด บริเวณโคนต้นพบร่องรอยมีการเจาะ และใช้สารเคมีบางอย่างหยอดเพื่อทำให้ยืนต้นตาย ซึ่งเป็นพฤติการณ์แบบเดียวกันเดียวกันกับที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบก่อนหน้านี้ในหลายพื้นที่ของจังหวัดจันทบุรี เจ้าหน้าที่ใช้อากาศยานไร้คนขับปฏิบัติการบินถ่ายภาพลักษณะการใช้ประโยชน์พื้นที่ เมื่อนำมาตรวจสอบกับระบบภูมิสารสนเทศของกรมป่าไม้ พบว่าอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาสมิง (ป่าคลองใหญ่และป่าเขาไฟไหม้) และปรากฏข้อมูลจากหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ตร.3 (มะนาว) มีการสำรวจถือครอง เพื่อดำเนินโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) ซึ่งจะส่งรายชื่อผู้ครอบครองให้พนักงานสอบสวน เพื่อออกหมายเรียกมาทำการสอบสวนประกอบการดำเนินคดีด้วย เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดพื้นที่ และไม้หวงห้ามทั้งหมด นำเรื่องราวแจ้งความกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรหนองบอน ในฐานความผิดตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ 2507 มาตรา 14 มาตรา 31 มาตรา 26/4 และพระราชบัญญัติป่าไม้ 2484 มาตรา 11 มาตรา 73 มาตรา 54 มาตรา 55 มาตรา 69 และมาตรา 72 ตรี เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดต่อไป นอกจากนี้ได้มอบหมายให้หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ตร.3 (มะนาว) รายงานให้สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 9 (ชลบุรี) ทราบ เพื่อดำเนินการตามระเบียบกฎหมายต่อไป

อีกจุด เจ้าหน้าที่พบมีการใช้เครื่องจักรหนักปรับพื้นที่เพื่อทำสวนทุเรียน และมังคุดอายุประมาณ 1-3 ปี มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำและวางระบบน้ำที่ใช้ในการบำรุงต้นทุเรียน รวมถึงสิ่งปลูกสร้างเป็นโรงเรือนในพื้นที่ จากการจับค่าพิกัดรอบแปลงคำนวณเนื้อที่ได้ 10 – 1 – 79 ไร่ เมื่อตรวจสอบกับแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศย้อนหลัง พบว่า ก่อนปี 2557 พื้นที่ดังกล่าวยังคงมีสภาพป่า มีไม้ยืนต้นขึ้นอยู่เต็มพื้นที่ แต่ปรากฏร่องรอยการใช้ประโยชน์ในพื้นที่หลังปี 2564 เมื่อนำมาตรวจสอบกับระบบภูมิสารสนเทศ พบว่าอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาสมิง (ป่าคลองใหญ่และป่าเขาไฟไหม้) และข้อมูลจากหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ตร.3 (มะนาว) ปรากฏมีการสำรวจถือครอง เพื่อดำเนินโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ได้มอบหมายให้หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ตร.3 (มะนาว) รายงานให้สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 9 (ชลบุรี) ทราบ เพื่อดำเนินการตรวจสอบว่าเป็นการดำเนินการชอบด้วยระเบียบกฎหมาย และเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องหรือไม่ เพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินการตามระเบียบกฎหมายต่อไป

cr. พยัคฆ์ไพร